แอพแต่งรูปภาพ
เริ่มจากเปิดโปรแกรมขึ้นมาก่อน จะได้หน้าจอตามนี้
หลังจากนั้นให้ทำการ Import รูปที่เราจะปรับแต่งโดยเลือกเมนู"Import photos from disk..."
เมื่อเลือกเสร็จก็จะได้หน้าจอตามรูปข้างล่างนี้จากนั้นให้นำเม้าส์ไปกดที่คำว่า Develop ตามลูกศร
เมื่อกดเมนู develop แล้ว จะได้หน้าจอดังนี้ต่อมาให้ไปคลิ๊กที่รูปที่อยู่แถบด้านล่างสุด เพื่อเลือกรูปที่จะทำการปรับแต่ง
ในการปรับแต่งรูปด้วยโปรแกรม Lightroom อาศัยการดู Histogram เป็นหลักดังนั้นเราจึงควรมาทำความเข้าใจกับ Histogram กันก่อน
ด้านซ้ายของ Histogram คือสีโทนมืด ส่วนด้านขวาคือโทนสว่างเราจึงสามารถอาศัย Histogram ในการดูว่ารูปของเรามืดไปหรือสว่างไปได้นั่นเอง
ตัวอย่างในรูปจะเห็นว่ากราฟ Histogram นั้นเบ้มาทางด้านโทนมืดแต่ก็ถูกแล้ว เพราะในรูปตัวอย่างนั้น แบ็คกราวน์ กับเสื้อผ้าของแบบ เป็นสีดำดังนั้นการที่ Histogram เบ้มาทางด้านซ้ายจึงไม่ได้แปลว่ารูปมืดไปเสมอไป
ทีนี้ลองไปกดเครื่องหมายสามเหลี่ยมด้านซ้ายบน และด้านขวาบนของ Histogram ดูเมื่อกดเครื่องหมายสามเหลี่ยมด้านขวาตามลูกศรสีแดง จะเห็นว่ามีพื้นที่สีแดงโผล่ขึ้นมาในรูป พื้นที่นั้นคือพื้นที่ในส่วนของกราฟที่ล้นด้านขวาสุดของ Histogram ไป หรือก็คือส่วนที่กลายเป็นสีขาว จนเรามองไม่เห็นรายละเอียดใดๆในพื้นที่นั้นเลย
ตรงข้าม เมื่อกดเครื่องหมายสามเหลี่ยมด้านซ้ายตามลูกศรสีน้ำเงิน จะเห็นว่ามีพื้นที่สีน้ำเงินโผล่ขึ้นมาในรูป พื้นที่นั้นคือพื้นที่ในส่วนของกราฟที่ล้นด้านซ้ายสุดของ Histogram ไป หรือก็คือส่วนที่กลายเป็นสีดำจนเรามองไม่เห็นรายละเอียดใดๆในพื้นที่นั้นเลยเช่นกันดังนั้นรูปถ่ายที่ดีคือรูปที่กราฟ ไม่ตกล้นไปทางด้านขวาและด้านซ้ายของ Histogram มากจนเกินไปนั่นเอง
จากรูปตัวอย่าง Histogram ล้นไปทางด้านขวาเล็กน้อย แต่ไม่ล้นไปทางด้านซ้ายเลย จึงเรียกได้ว่าเป็นรูปที่ความสว่างกำลังพอเหมาะ
· การปรับ White Balance สามารถปรับได้โดยใช้แถบเมนู Temp และ Tint
โดยที่ Temp เป็นแถบที่ใช้ปรับเมื่อรูปมีโทนน้ำเงินหรือเหลืองผิดปกติ
· Exposure ใช้สำหรับเพิ่ม-ลด ความสว่างโดยรวมของภาพ
เหมือนการปรับรูรับแสงในกล้องถ่ายรูป
· Recovery ใช้สำหรับกู้รายละเอียดของพื้นที่ที่ล้นด้านขวามือ
ของ Histogram ให้กลับคืนมา
· Fill Light เป็นการเพิ่มความสว่างในส่วนของเงามืดในภาพ
เทียบแล้วก็เหมือนกับการใช้รีเฟลกซ์เปิดเงาให้กับภาพ
· Black เป็นการเพิ่ม-ลดความเข้มในส่วนของเงามืดของภาพ
· Brightness เป็นการเพิ่มความสว่างให้กับภาพซึ่งจะแตกต่างกับการใช้
Exposure คือ Brightness จะมีผลกับบริเวณตรงกลางของ Histogram เท่านั้น
แต่ Exposure มีผลกับ Histogram ทุกส่วน
· Contrast ใช้ปรับเพิ่ม-ลด Contrast ของภาพ
เมื่อเข้าใจเครื่องมือต่างๆแล้ว ก็มาลองแต่งรูปดูกันเลย
จากรูปตัวอย่าง ส่วนที่เป็นเงาของใบหน้ามันมืดไป ลองปรับ Fill Light เป็น 15
ต่อมาลองมองว่าส่วนที่เป็นเงามืดของเสื้อผ้าน่าจะเข้มกว่านี้ผมเลยปรับ Blacks เป็น 4 (จะเห็นว่าส่วนที่เป็นพื้นที่สีน้ำเงินในรูปเพิ่มขึ้น)
ทีนี้ดูที่เสื้อ มองว่ามันติดน้ำเงินนิดๆ ผมจึงปรับ white balance ตามค่าในรูปคือ Temp +25 เพื่อแก้รูปติดโทนน้ำเงิน และปรับ Tint -15 เพื่อไม่ให้รูปติดโทนเหลืองจนผิดธรรมชาติก็จะได้สีผิวที่เข้มขึ้น และดูดีกว่าก่อนทำการปรับแต่ง
หลังจากนั้น เลื่อนแถบเครื่องมือลงมาจนถึงเครื่องมือ Tone Curve
ทำการปรับ contrast ของรูป โดยคลิ๊กที่คำว่า linear แล้วเปลี่ยนเป็น medium contrast
ก็จะได้รูปที่ดูสวยขึ้นดังนี้
ลากแถบเมนูกลับขึ้นไป เพื่อให้ภาพดู soft ขึ้นให้ปรับ Clarity เป็น -25 ถึง -40 แล้วแต่ความชอบ
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการทำรีทัชแบบง่ายๆเมื่อกดซูมรูปเข้าไปดู ก็จะเห็นร่องรอยไม่พึงประสงค์อยู่
ให้มากดเลือกเครื่องมือรูปวงกลม ตามลูกศร และจะเห็นว่ามีวงกลมสีเทาโผล่ขึ้นมาในรูปปรับขนาดของวงกลมสีเทา ให้ใหญ่กว่าร่องรอยที่ต้องการลบเล็กน้อย
เสร็จแล้วก็จะมีวงกลมสีขาวอีกวงโผลขึ้นมา ให้ลากวงกลมนี้ไปรอบๆ สังเกตุจนกว่าผิวในวงกลมสีเทาวงเดิมเรียบเนียนเมื่อรีทัชเสร็จแล้ว ให้กดที่คำว่า close
เป็นอันว่าเสร็จไป 1รูป
จากนั้นก็ไปปรับแต่งรูปอื่นต่อไปตามวิธีการข้างต้น
เมื่อปรับแต่งครบทุกรูปแล้ว ก็ไปแถบด้านลางสุด กด Ctrl+A เพื่อเลือกทุกรูปแล้วทำการเซฟรูปด้วยคำสั่ง export
จะมีหน้าจอขึ้นมาตามนี้
· ส่วนแรกคือ Folder ที่คุณจะเลือกเพื่อทำการเซฟรูป
· ส่วนที่สองคือ format ของรูปที่ต้องการจะเซฟ ซึ่งปกติให้เลือกเป็น JPG และ color space เป็น sRGB
· ส่วนที่3 เฉพาะกรณีที่คุณต้องการย่อรูปด้วยโปรแกรมนี้
แต่โดยส่วนตัวแล้ว แนะนำให้ย่อด้วย photoshop ดีกว่าเมื่อเลือกทุกอย่างแล้วกด export ก็เป็นอันเสร็จ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น